fbpx

โรคไขข้อเสื่อม เป็นแล้วไม่ตาย แต่เหมือนพิการตลอดชีวิต

ความผิดปกติของข้อเข่าที่เราไม่ควรปล่อยทิ้งไว้

       อาการปวดเข่า ปวดข้อ มีเสียงก้อบแก้บเวลาเดิน จนบางครั้งถึงกับเคลื่อนไหวไม่ได้ เป็นอาการที่มักจะแสดงออกมาเมื่อผู้ป่วยมีอายุ 40 ปีขึ้นไป และพุ่งสูงถึงร้อยละ 50 เมื่ออายุเกิน 60 ปี หากไม่ได้รับการดูแลรักษาที่ดีอาการนั้นจะหนักขึ้นเรื่อยๆจนทำให้คุณใช้ชีวิตลำบากขึ้น บางรายถึงกับเดินไม่ได้หลายวัน แม้โรคนี้เป็นแล้วจะไม่ได้อันตรายถึงชีวิตแต่หากไม่ดูแลรักษา ผู้ป่วยอาจจะต้องทุกข์ทนทรมานกับอาการเหล่านี้ไปจนตลอดชีวิตลยทีเดียว จึงทำให้โรคไขข้อเสื่อมกลายมาเป็นเป็นสาเหตุอันดับ 4 ของโรคนับตามจำนวนปีที่มีชีวิตอยู่กับความพิการ (YLDs) โดยองค์การอนามัยโลก WHO คาดการณ์ว่าในปัจจุบันนั้นอาจมียอดผู้ป่วยกระดูกและข้อสูงเกินกว่า 570 ล้านคนโดยประมาณ

       สถานการณ์ในไทยก็ค่อนข้างวิกฤตไม่แพ้กัน เพราะว่าประเทศของเรากำลังเดินหน้าเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุจึงเป็นธรรมดาที่ตัวเลขยอดผู้ป่วยจะสูงขึ้น สิ่งที่น่าเป็นห่วงกว่าคือผู้ป่วยเกือบทั้งหมดนั้นขาดความรู้ความเข้าใจในตัวโรคไขข้อเสื่อมเป็นอย่างมากจึงไม่รู้ว่าควรป้องกันอย่างไร รับมืออย่างไร ถ้าเป็นแล้วควรหาหมอไหม บทความนี้จึงอยากพาทุกๆคนไปรู้จักกับโรคข้อเข่าเสื่อมไป พร้อมๆกันเลยค่ะ

โรคไขข้อเสื่อม คือ ภาวะที่กระดูกอ่อนบริเวณข้อต่อหัวเข่าเกิดถูกทำลายลงอย่างช้าๆ

       เนื่องจากพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดแรงกดทับรวมไปถึงร่างกายผลิตน้ำหล่อเลี้ยงกระดูกที่ชื่อว่า คอลลาเจน ได้น้อยลง จนโครงสร้างเกิดการเปลี่ยนแปลง กระดูกสึกกร่อนและผิดรูป กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นหย่อนยาน ส่งผลให้ข้อเข่าไม่สามารถรองรับน้ำหนักตัวได้เหมือนเดิม จนเกิดการอักเสบเรื้อรังขึ้น จึงเป็นที่มาของอาการเจ็บปวดเวลาเดิน มีเสียงก๊อบแก๊บ ลงน้ำหนักเท้าไม่ได้นั่นเอง สถิติยังพบว่าผู้หญิงมีโอกาสเป็นมากกว่าผู้ชายสูงมากถึง 3 เท่าเลยทีเดียว

       ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า ฝันร้ายที่ใครก็ไม่อยากโดน หากภาวะเสื่อมและอักเสบหนักมากขึ้น จนไม่สามารถขยับได้จนกลายเป็นความพิการกลายๆ แล้วนั้น ยาและวิธีกายภาพบำบัดจะใช้ไม่ได้ ผลคือหมอจะวินิจฉัยให้เข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม ซึ่งแน่นอนว่าการผ่าตัดเป็นสิ่งที่น่ากลัว เจ็บตัว และเสียเงินหลักแสนบาทต่อข้อเข่า 1 ข้างเลยทีเดียว

       พฤติกรรมการใช้ชีวิตเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักของการเกิดโรค สถิติในปัจจุบันพบว่าไม่ใด้มีเพียงผู้สูงอายุเท่านั้นที่เป็นโรคนี้ แต่ผู้คนในวัยทำงานก็มีภาวะอาการของโรคข้อเข่าเสื่อมได้เช่นเดียวกัน สาเหตุนั้นมาจากการใช้ชีวิตประจำวันที่ทำร้ายข้อเข่าโดยไม่รู้ตัวดังนี้ค่ะ

       ท่านั่งที่ทำร้ายกระดูกข้อเข่า เช่น นัดพับเพียบ นั่งขัดสมาธิ เป็นท่านั่งที่จะสร้างแรงกดทับที่หัวเข่ามาก ยิ่งทำบ่อยข้อเข่าก็ยิ่งถูกทำลายมากขึ้น

      พฤติกรรมเนือยนิ่ง เช่น การนั่งทำงาน ดูทีวี อ่านหนังสือ ในท่าเดิมนานๆและไม่ลุกไปไหน ทำให้มวลกระดูกและกล้ามเนื้ออ่อนแอลง มีโอกาสเกิดการฝืดเคืองที่ข้อต่อมากกว่าคนที่มีการยืดเส้นยืดสายเป็นประจำ

      น้ำหนักตัว ยิ่งเรามีน้ำหนักตัวมากขึ้นก็จะสร้างแรงกดทับที่ข้อเข่ามากขึ้นตามไปด้วย หากมีพฤติกรรมเนือยนิ่งและนั่งผิดท่าร่วมด้วย จะเป็นตัวเร่งให้กระดูกข้อเข่าเสื่อมมากยิ่งขึ้นค่ะ

       พฤติกรรมเหล่านี้เป็นพฤติกรรมทั่วไปที่ถือว่าหลีกเลี่ยงยากมากๆที่จะไม่เผลอทำร้ายข้อเข่าของตัวเอง ดังนั้นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้ข้อเข่าไม่ถูกทำลายลงได้คือการเพิ่มคอลลาเจนอย่างต่อเนื่องและเพียงพอ เพราะคอลลาเจนเป็นเหมือนน้ำหล่อเลี้ยงข้อเข่าที่จะช่วยรับมือกับแรงกดทับได้ เป็นเสมือนกาวที่ยึดข้อเข่ากับกระดูกไว้ด้วยกัน ยิ่งมีเยอะความเสี่ยงที่ข้อเข่าจะเสื่อมก็ยิ่งน้อยลงค่ะ แต่ไม่ใช่คอลลาเจนทุกชนิดจะช่วยบำรุงไขข้อที่เสื่อมนะคะ แต่ว่าต้องเป็น คอลลาเจน ไทพ์ ทู (Type – 2 Collagen) อีกด้วย

คอลลาเจนชนิดที่พบมากในกระดูกข้อต่อ ทำหน้าที่ช่วยในการสร้างกระดูกอ่อน ซ่อมแซมข้อที่เสียหายหรือสึกหรอ  โดยกระตุ้นให้มีการสังเคราะห์เซลล์ข้อใหม่ๆเพิ่มมากขึ้น เปรียบเสมือนน้ำหล่อเลี้ยงกระดูกข้อต่อให้เคลื่อนไหวได้อย่างราบรื่น การมีสุขภาพกระดูกอ่อนที่ดีก็ต้องอาศัยคอลลาเจนไทพ์ทูเป็นหลัก ดังนั้น คอลลลาเจนชนิดที่ 2 จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่อง

ปวดข้อ ข้อฝืด ข้อไม่แข็งแรง
รวมไปถึงคนวัย 40+ ที่มีอาการไขข้อเสื่อมอันเป็นที่มาของความลำบากในชีวิตประจำวัน

        นอกจากนี้ยังได้มีการสกัดคอลลาเจนชนิดที่ 2 ให้อยู่ในรูปแบบที่เรียกกันว่า “ยูซีทู” (Undenatured Collagen Type II; UC-II) ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับคอลลาเจนที่ร่างกายสร้างขึ้น สามารถดูดซึมได้อย่างรวดเร็วทำให้กระบวนการสร้างกระดูกอ่อนนั้นเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

       ผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี ขึ้นไป การสังเคราะห์คอลลาเจนจะลดลง จนไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย ดังนั้นทางเดียวที่จะช่วยให้ร่างกายได้รับคอลลาเจนให้เพียงพอต่อร่างกาย คือ การรับประทานคอลลาเจน ซึ่งในอาหารทั่วไปมีคอลลาเจนอยู่น้อยมากๆ  จึงอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย  การรับประทานคอลลาเจนสกัดเข้มข้นจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีกว่าที่จะช่วยให้ร่างกายได้รับปริมาณคอลลาเจนอย่างเพียงพอ โดยทั่วไปเราควรได้รับคอลลาเจนในปริมาณ 40 มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อการฟื้นฟูร่างกายอย่างเห็นผล

โอกาสดี โปรโมชั่น ที่นี่วันนี้

โปรทริว่า คอลลาเมท คอลลาเจน ไทป์ทู
ชุด 4 ซอง ทาน 1 เดือน รวม 200,000 มก.
 จากราคาปกติ 3,960 บาท ราคาพิเศษเพียง 990 บาทเท่านั้น

(ชุดพิเศษส่งท้ายปี 50 ชุดเท่านั้น หมดแล้วหมดเลย)
จัดส่งฟรี เก็บเงินปลายทางฟรีไม่บวกเพิ่ม

โปรโมชั่นจะหมดเวลาในอีก

ชั่วโมง
นาที
วินาที

กดรับโปรโมชั่น จัดส่งเก็บเงินปลายทางฟรี

Post Views: 338